ปัญหาคาใจพ่อแม่ที่มีลูกอ่อน อย่างหนึ่งก็คือ
การฉีดวัคซีนให้ลูก เราจะเลือกอย่างไรดี ตัวไหนบ้าง
พอดีเมื่อหลายวันก่อน ทางโรงเรียนของปั้น
มีจดหมายมาถึงผู้ปกครอง เรื่องขอความร่วมมือ
ให้อนุญาตหยอดวัคซีนป้องกันโปลิโอให้นักเรียนหน่อย
ซึ่งโดยปกติแล้ว เมื่อเห็นจดหมายลักษณะนี้มา
หลายๆบ้าน ก็ไม่คิดอะไรมาก ตอบตกลง
แล้วส่งกลับให้ทางโรงเรียนไป พอถึงเวลา
ทางโรงเรียนก็จับเด็กเข้าแถวไปหยอดหรือฉีดวัคซีนกับไป
พ่อแม่บางคน ก็ไม่รู้หรอกว่า ลูกเคยฉีดวัคซีนอะไรไปแล้วบ้าง
ฉีดตอนไหน ฉีดแล้วหรือยังไม่ได้ฉีดนะ
ทางโรงเรียนเค้าคงรู้ดีกว่าเรา ก็เลยส่งจดหมายมาให้เราอนุญาต
ผมก็เลยอยากแนะนำ ให้พ่อแม่มือใหม่หรือมีลูกใหม่อีกครั้งอ่านดู
คือว่า วัคซีนที่ฉีดป้องกันโรคตั้งแต่แรกเกิดเลย มีด้วยกันหลายชนิดตัวแรกที่ฉีดให้เด็กตั้งแต่แรกเกิดเลย
ก็คือ วัคซีน บี ซี จี (ป้องกันวัณโรค)ฉีดกันครั้งเดียว อยู่ได้ตลอดชีวิต
ไม่จำเป็นต้องฉีดซ้ำอีกหลังฉีดอาจมีอาการเป็นฝีหนอง
ตรงจุดที่ถูกฉีด เป็นเองได้ ก็หายเองได้วัคซีนตัวที่สองที่ได้รับ คือ วัคซีนป้องกันโรคโปลิโอ หากเป็นชนิดกิน เรียนว่า โอ พี วี แต่ถ้าเป็นแบบฉีด เรียกว่า ไอ พี วี
(ตัวนี้ราคาแพงกว่า โอ พี วี นะครับ)วัคซีนนี้ ต้องให้กัน 5 ครั้ง คือ
ตอนลูกอายุ 2 เดือน 4 เดือน 6 เดือนขวบครึ่ง (18 เดือน) และสี่ขวบตัวนี้แหละที่ทำให้ผม ไม่เซ็นอนุมัติ
ให้ปั้นต้องรับวัคซีนป้องกันโปลิโออีกรอบที่โรงเรียน
ไม่ใช่เพราะเสียดายเงินหรอกนะครับ
เพราะก็ไม่รู้ว่าทางโรงเรียนจะเรียกเก็บเงินจากผู้ปกครองเท่าไร
แต่คิดว่า ก็คงไม่กี่ร้อยบาท เพราะวัคซีนนี้ ราคาไม่สูง
แต่เพราะปั้นได้ฉีดวัคซีน ไอ พี วี ไปแล้ว 4 ครั้ง ที่โรงพยาบาล
เหลืออีกแค่ครั้งเดียว ตอนอายุ 4 ขวบ
นอกจากนี้ ยังมีวัคซีนอีก 3 ชนิดรวมในเข็มเดียวกัน เรียกว่า ดี ที พี ฉีดป้องกัน โรคคอตีบ ไอกรน บาดทะยักอีก 5 ครั้ง ฉีดพร้อมกันกับวัคซีนโปลิโอเลย รวมตอนนี้ ก็เป็น 5 ชนิดด้วยกันแล้ว
มี วัณโรค โปลิโอ คอตีบ ไอกรน บาดทะยักวัคซีนตัวที่หก คือ วัคซีนป้องกันโรคหัด (หัด คางทูม หัดเยอรมัน)ทางโรงพยาบาล จะฉีดให้ตอนเด็กอายุ 9 เดือน เข็มแรกส่วนเข็มที่สองจะให้ตอนเด็กมีอยู่ 4-6 ขวบ อีกรอบยกเว้นแต่เด็กบางรายออกหัดซะก่อนก็งดวัคซีนนี้ไปวัคซีนตัวที่เจ็ด คือ ป้องกันโรคไวรัสตับอักเสบ บี ตัวนี้ ให้กันสามครั้ง คือ ตอนแรกเกิด
พร้อมๆ กับ วัคซีน บี ซี จี (ป้องกันวัณโรค)คั้งที่ 2 และ ครั้งที่ 3 จะให้ตอนอายุ 1 เดือน และ 6 เดือน ซึ่งตอน 1 เดือน คุณหมอก็มักจะนัดพบเด็กและพ่อแม่เพื่อให้คำปรึกษาเรื่องการเลี้ยงดูและดูพัฒนาการเด็กอยู่แล้ววัคซีนตัวที่แปด ป้องกันโรคไข้สมองอักเสบ เจ อีตัวนี้ฉีดตอนลูกอายุ 1-2 ขวบ ฉีดทั้งหมด 3 เข็มโดยครั้งที่ 1 และ 2 ห่างกัน 1-4 สัปดาห์ครั้งที่ 3 ห่างจากครั้งแรก 1 ปี เป็นเข็มกระตุ้น ถ้าจะให้ดี ควรจะมีการกระตุ้นทุก 3 ปีสรุปวัคซีนภาคบังคับ ที่อยู่ในแผน
การสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคของกระทรวงสาธารณสุขและถือเป็นนโยบายที่เด็กทุกคนต้องได้รับ ก็มีทั้งสิ้น 8 ตัว ได้แก่ วัคซีนวัณโรค (BCG) วัคซีนโปลิโอ (OPV) วัคซีนคอตีบ ไอกรน บาดทะยัก (DTP) กลุ่มนี้ ป้องกัน 3 ตัววัคซีนหัด หัดเยอรมัน คางทูม (MMR) วัคซีนตับอักเสบบี (HB) และวัคซีนไข้สมองอักเสบเจอี (JE) ส่วนวัคซีนที่ไม่ได้บังคับให้ฉีด ก็มีอยู่หลายตัวเหมือนกัน
เช่น วัคซีนป้องกันตับอกเสบ เอ
โรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบ จากเชื้อฮิบ
โรคติดต่อฮีโมฟีลุส อินฟลูเอนซา
โรคอีสุกอีใส โรคโรต้า ไข้หวัดใหญ่
คำถามคาใจที่ว่าจะฉีดวัคซีน อะไรบ้าง
ราคาวัคซีนแต่ละตัวคุ้มค่าไหมกับผลที่จะได้รับ
เป็นคำถามที่ยังหาคำตอบไม่ได้
อาจจะดี อย่างน้อยก็ทำให้คุณภาพชีวิตลูกและพ่อแม่ดีขึ้นด้วย
การตัดสินใจฉีดวัคซีน ให้หมอเป็นผู้แนะนำ
ส่วนการตัดสินใจควรเป็นหน้าที่คุณพ่อคุณแม่เอง
เด็กบางรายอาจมีความเสี่ยง มากกว่่าเ้ด็กบางราย
จึงสมควรฉีดเพื่อป้องกัน
อย่าให้บริษัทยาออกไปทำตลาด แล้วมัดมือ ให้ล้วงกระเป๋า
จ่ายตังค์ค่าวัคซีนที่ไม่จำเป็น จากผู้ปกครองที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่
เงินไม่กี่ร้อยบาท สำหรับบางคน ขนหน้าแข้งคงไม่ล่วง
แต่สำหรับคนที่ไม่มีเงินมากนัก จะเป็นอย่างไร
ตัดสินใจกันเอาเองนะครับ ฉีดก็ดี ไม่ฉีดก็ได้ ไม่ว่ากันอยู่แล้ว
