Search NuiPik Blog ลองใส่คำดูสิค่ะ

Showing posts with label พัฒนาการ. Show all posts
Showing posts with label พัฒนาการ. Show all posts

Wednesday, March 4, 2015

ป้อน 4 ขวบ ผ่าตัดทอนซิลและอะดินอยด์ @ ร.พ. ตา หู คอ จมูก

ตอนพี่ปั้น 3 ขวบ ก็เข้ารับการผ่าตัดทอนซิลและอะดินอยด์
http://nuipik.blogspot.com/2012/07/blog-post_03.html


คราวนี้ถึงคิวน้องป้อนบ้าง
ที่จริงแล้วป้อนพบคุณหมอประกอบเกียรติ หิรัญวิวัฒน์กุล
(โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์)
พร้อมกับพี่ปั้น และปะป๊า มาประมาณปีกว่าๆ มาแล้ว
สาเหตุ คือ ป้อนนอนกรน มีอาการหายใจครืดคราด
นอนดิ้น เหมือนหลับไม่สนิท ตื่นกลางคืนบ่อย
เบื้องต้น คุณหมอให้ป้อนไป X-Ray ก็ได้ความว่าต่อมอะดินอยด์โตมาก
แต่ด้วยคุณหมอเห็นว่าป้อนยังเล็ก น่าจะลองให้ทานยาซักระยะ
เผื่อจะดีขึ้น  คุณหมอให้ป้อนทานยา Ormist และ Singulair
วันละ 1 ครั้งก่อนนอน
แต่ดูเหมือนว่า ป้อนยังคงนอนกรนและดิ้น
เหมือนหลับไม่สนิทอย่างเดิม

11.11.2557 คุณหมอให้ป้อนไปทำ Sleep Test
ซึ่งผลก็ออกมาว่า ป้อนมีภาวะหยุดหายใจขณะหลับด้วย
http://nuipik.blogspot.com/2014/11/sleep-test.html


14.02.2558 มาบคุณหมอตามนัดที่ ร.พ. จุฬาฯ ทั้งครอบครัว
คุณหมออธิบายให้ฟังว่า การผ่าตัด ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง
ในการรักษา ซึ่งในกรณีของป้อน (อายุ 4 ขวบ) คุณหมอก็
แนะนำให้รับการผ่าตัดต่อมอะดินอยด์และต่อมทอนซิล
ซึ่งจากผลการ X-Ray และการทำ Sleep Test
 จะเห็นว่าต่อมอะดินอยด์อักเสบและโตมาก

ก็เหมือนกับพี่ปั้น
ป้อนจะต้องมารับการผ่าตัดที่ โรงพยาบาลตา หู คอ จมูก
แต่ปัญหาสำหรับแม่นุ้ยในตอนนี้
ไม่ใช่เรื่องการตัดสินใจให้ป้อนทำผ่าตัด...
แต่คือ เรื่องการงดน้ำ งดอาหาร ก่อนการทำผ่าตัดของป้อน
มัน  ยาก  มาก!!!

ปรึกษาคุณหมอ ขอให้คุณหมอทำผ่าตัดตอนเช้าได้มั้ย
เนื่องจากปกติ คุณหมอจะทำผ่าตัดที่ ร.พ. ตา หู คอ จมูก
หลังจากออกตรวจคนไข้เสร็จ ซึ่งก็ประมาณหัวค่ำ ของวันเสาร์-อาทิตย์
ดงนั้นคุณหมอบอกว่า ถ้าอยากทำผ่าตัดตอนเช้า
ต้องเลือกวันที่เป็นวันหยุดนักขัตฤกษ์

04.03.2558 วันฤกษ์ดี วันพระ วันมาฆบูชา
ป้อนนอนหลับตอนคืน
เลยทำให้งดน้ำ งดอาหาร ได้อย่างง่ายดาย
07.30 น. ก็มาเตรียมพรอมที่โรงพยาบาล
(โดยที่เจ้าตัวไม่รู้ตัวว่าจะต้องโดนทำผ่าตัด)
X-Ray ผ่านไปด้วยดี เพราะป้อนคุ้นเคย
เจาะเลือด เจ็บนิดหน่อยย แต่ก็ไม่เป็นปัญหา




09.00 น. ถึงเวลาเข้าห้องผ่าตัด
เข้าไปก็นั่งคุยกับคุณหมอซึ่งเป็นวิสัญญีแพทย์อยู่พักใหญ่

พอ 10.00 น. คุณหมอชวนป้อนเข้าไปเป่าลูกโป่ง
ป้อนก็เดินตามเข้าไปโดยดี (นึกว่าพาไปเล่นมั๊ง)
เป่า 2 ที หลับคร่อก!

ประมาณ 11.00 น. คุณหมอประกอบเกียรติ ออกมาจากห้องผ่าตัด
พร้อมกระปุกใส่ ชิ้นส่วนต่อมอดินอยด์และต่อมทอนซิล
ที่ตัดออกมา... มัน ใหญ่ มาก!

 



ป้อนออกมาจากห้องผ่าตัดก็สะลึมสะลือ
ร้องไห้นิดหน่อย แต่พอคุณหมอบอกว่าถ้าร้องไห้
แล้วเดี๋ยวจะเลือดออก ก็อึด ฮึด ได้แต่น้ำตาไหลอย่างเดียว
คงระบมแผลในคอน่าดู
อุ้มกันอยู่ในห้องพักฟื้นดูอาการหลังผ่าตัดเกือบชั่วโมง
ก็พร้อมกลับห้องพัก




พอฟื้น หายมึน ก็ขอดื่มน้ำ
ให้อมน้ำแข็งก็ยอม ให้ทานยาก็แสนง่าย
ซนๆ อย่างป้อน ไม่น่าเชื่อว่าจะ ว่าง่าย
ป้าๆ พยาบาลชมกันใหญ่
ป้อนทานน้ำแข็ง ทานยาได้ครบทุกมื้อ
ฟื้นตัวจนเกือบปกติได้เร็วมาก
นอนโรงพยาบาลกัน 1 คืน ก็กลับบ้านได้




ข้อมูลเพิ่มเติมอีกหน่อย
คัดลอกมาจาก

รศ.นพ.วิชญ์  บรรณหิรัญ
ภาควิชา โสต นาสิก ลาริงซ์วิทยา
Faculty of Medicine Siriraj Hospital
คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล

http://www.si.mahidol.ac.th/sidoctor/e-pl/articledetail.asp?id=898



การผ่าตัดต่อมทอนซิล และ/หรือ ต่อมอะดีนอยด์
(Tonsillectomy / Adenoidectomy)


            ต่อมทอนซิล (Tonsil)  และต่อมอะดีนอยด์ (Adenoid) เป็นเนื้อเยื่อต่อมน้ำเหลืองชนิดเดียวกันที่อยู่ในบริเวณทางเดินหายใจส่วนบน  โดยต่อมทอนซิลจะมีอยู่หลายต่ำแหน่ง แต่ที่เห็นชัดที่สุดเวลาอ้าปากจะมี 2 ก้อนอยู่ช่องคอข้างลิ้นไก่และโคนลิ้น  ส่วนต่อมอะดีนอยด์จะอยู่ในส่วนหลังของโพรงจมูกทำให้มองไม่เห็นจากการตรวจธรรมดา  การผ่าตัดต่อมทอนซิลและ/ หรือต่อมแอดีนอยด์ออก จะทำเมื่อ มีการติดเชื้อเรื้อรัง หรือเป็นๆหายๆ เช่น มีไข้คัดจมูกน้ำมูกไหลเรื้อรัง จนรบกวนคุณภาพชีวิตของผู้ป่วย  หรือใช้รักษาอาการนอนกรนและภาวะหยุดหายใจขณะหลับชนิดอุดกั้น ซึงนิยมทำและได้ผลดีมากในเด็ก  การผ่าตัดทั้งสองอย่างนี้นิยมทำพร้อมกันในการผ่าตัดครั้งเดียว ภายใต้การดมยาสลบ โดยพทย์จะใส่เครื่องมือทางช่องปาก จึงไม่มีบาดแผลใดๆ ที่มองเห็นได้จากภายนอก  ใช้เวลาพักรักษาตัวในโรงพยาบาลราว 1-2 วัน  ผลจากการผ่าตัดมีผลต่อภูมิคุ้มกันของผู้ป่วยน้อยมาก  ดังนั้นจึงมีความเสี่ยงในการติดเชื้อหลังผ่าตัดน้อย

การเตรียมตัวก่อนผ่าตัด  ผู้ป่วยควรจะรักษาสุขภาพให้แข็งแรง เช่น พักผ่อนอย่างเพียงพอ เพื่อป้องกันไข้หวัดหรือการติดเชื้อของระบบทางเดินหายใจเฉียบพลัน ซึ่งอาจทำให้ต้องเลื่อนการผ่าตัด สำหรับผู้ป่วยบางรายที่รับประทานยาบางชนิด เช่น ยาแอสไพริน หรือ ยาต้านการแข็งตัวของเลือด ต้องหยุดยาก่อนผ่าตัดหลายวัน ทั้งนี้ต้องปรึกษาแพทย์ เพื่อประเมินความพร้อมของผู้ป่วยสำหรับการผ่าตัด ซึ่งอาจต้องตรวจเลือด ภาพถ่ายรังสี หรือคลื่นหัวใจแล้วแต่ความจำเป็น นอกจากนี้ก่อนผ่าตัดจะมีวิสัญญีแพทย์และพยาบาลจะมาให้ความรู้  เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการดมยาสลบ  และควรงดน้ำและอาหารก่อนผ่าตัดอย่างน้อย 6 ชั่วโมง (หรือตามความจำเป็น)   เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนจากการดมยาสลบ  ซึ่งในกรณีของผู้ป่วยเด็กผู้ปกครองจะต้องดูแลตามคำสั่งของแพทย์อย่างเคร่งครัด


ความเสี่ยงและภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นจากการผ่าตัด โดยทั่วไปมักไม่รุนแรงและพบน้อยได้แก่ เลือดออกจากจมูก หรือปาก ซึ่งปกติมักมีปริมาณไม่มากและหยุดได้เอง แต่บางรายถ้าเลือดออกไม่หยุดอาจต้องไปทำการห้ามเลือดในห้องผ่าตัด   ผู้ป่วยอาจรู้สึกหายใจลำบากจากการบวมของทางเดินหายใจรอบแผลผ่าตัด  ซึ่งถ้าอาการรุนแรง อาจต้องใส่ท่อช่วยหายใจ หรือเจาะหลอดลมคอ  ผู้ป่วยจะพูดได้ชัดปรกติและมีผลต่อเสียงหรือการพูดน้อยมาก ยกเว้นผู้ที่ต้องใช้เสียงเป็นอาชีพเช่น นักร้อง หรือนักพากย์ควรแจ้งให้แพทย์ทราบก่อน     นอกจากนี้อาจมีความเสี่ยงจากการดมยาสลบ   เช่น เสียงแหบจากการใส่ท่อช่วยหายใจ แผลบริเวณเหงือก ลิ้น บางรายที่ฟันไม่แข็งแรง อาจมีฟันโยกได้ เนื่องจากต้องใช้เครื่องมือในช่องปาก  อย่างไรก็ตามแม้ว่าผลข้างเคียงที่รุนแรง เช่น ปอดอักเสบจากการสูดสำลัก หรือน้ำท่วมปอด  พบได้น้อยมาก แต่ถ้าผู้ป่วยมีภาวะหยุดหายใจขณะหลับระดับรุนแรง และมีโรคประจำตัว เช่น อ้วนมาก เบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคเลือดออกผิดปกติ หรือ มีโรคหัวใจและโรคปอดร่วมด้วย  จะมีอัตราเสี่ยงของการเกิดภาวะแทรกซ้อนได้สูงขึ้น

การปฏิบัติตนและสิ่งที่ควรทราบหลังผ่าตัด  
            1. ผู้ป่วยจะได้รับการรักษาตัวในโรงพยาบาล และส่วนมากสามารถกลับบ้านได้หลังผ่าตัด 24-48 ชั่วโมง หากรับประทานอาหารได้เพียงพอ และไม่มีภาวะแทรกซ้อน  ใช้เวลาพักทั้งหมดฟื้นราว 7-10 วัน
            2. ผู้ป่วยจะมีแผล โดยมักเห็นเป็นฝ้าสีขาวอยู่ในช่องคอตรงบริเวณเดิมของต่อมทอนซิลทั้งสองข้าง ซึ่งจะค่อยๆ หายเองภายใน 7-14 วัน   นอกจากนี้ในช่วงวันแรก ๆ อาจมีอาการเจ็บคอ  กลืนลำบาก  รับประทานไม่ค่อยสะดวก ทำให้น้ำหนักลดได้   โดยผู้ป่วยจะได้รับยาที่จำเป็น เช่น ยาแก้ปวด  ยาแก้อักเสบ  หรือ ยาหยอดจมูก เพื่อห้ามเลือด เป็นต้น 
            3. หลังการผ่าตัดสัปดาห์แรก ทางเดินหายใจมักจะบวมขึ้น อาจทำให้หายใจไม่สะดวก และกรนไม่ดีขึ้น นอกจากนี้อาจมีเลือดออกได้ ดังนั้นควรนอนศีรษะสูง โดยใช้หมอนหนุน หรือเตียงที่ปรับได้  อมและประคบน้ำแข็งที่คอบ่อยๆ งดเล่นกีฬาที่หักโหมหรือยกของหนักชั่วคราว และหลีกเลี่ยงการขับเสมหะ การสั่งน้ำมูกหรือจามแรงๆ  โดยทั่วไปผู้ป่วยอาจมีน้ำลายหรือน้ำมูกปนเลือดออกเล็กน้อย ซึ่งถ้านอนพักและใช้ยาหยอดจมูกมักจะดีขึ้น อย่างไรก็ตามถ้าอาการเป็นรุนแรงขึ้นควรรีบไปโรงพยาบาลพบแพทย์ทันที   
            4. ใน 2-3 วันแรกควรรับประทานอาหารเหลวที่เย็น เช่น ไอศกรีม  หรือน้ำดื่มที่ให้พลังงาน หรือ อาหารอ่อน เช่น โจ๊ก ข้าวต้ม  แต่ไม่ควรรับประทานอาหารที่แข็งหรือร้อน หรือ รสเผ็ดรสจัดเกินไป  อย่างน้อย 1 สัปดาห์แรกหลังผ่าตัด 
            5. ควรรักษาความสะอาดในช่องปาก เช่น บ้วนปากและแปรงฟันทุกครั้งหลังรับประทานอาหาร
การนัดตรวจติดตามอาการ  แพทย์จะนัดมาดูอาการและฟังผลชิ้นเนื้อ (ถ้ามีการส่งตรวจ) ครั้งแรกประมาณ 1 สัปดาห์หลังผ่าตัด  และหลังจากนั้น 3-4  สัปดาห์ แพทย์จะนัดมาเพื่อประเมินผลการรักษาเพื่อพิจารณาแนะนำทางปฏิบัติอื่น ๆ ที่เหมาะสมต่อไป


Tuesday, November 11, 2014

ป้อน Sleep Test @ ศูนย์นิทราเวท ร.พ. จุฬา




ผลจาการนอนกรนของน้องป้อน
คุณหมอประกอบเกียรติ ร.พ. จุฬา เลยส่งตัวให้น้องป้อน
มาตรวจการนอนหลับ ที่ศูนย์นิทราเวท ร.พ. จุฬา
--------

11-11-2557  21:00 น.
น้องป้อนได้คิวทำการตรวจการนอนหลับ
ว่าจะมีภาวะหยุดหายใจขณะหลับหรือไม่ อย่างไร

ในการตรวจการนอนหลับแต่ละครั้ง 
ผู้เข้ารับการตรวจต้องโทร. เพื่อทำนัดวันตรวจการนอนหลับ
คลินิคตรวจการนอนหลับจะเปิดทำการ 20:00-07:00 น.
ก็เรียกว่าเมื่อได้วันนัดแล้ว
พอถึงวัน และเวลา ที่ได้นัด ก็อาบน้ำ สระผม มาให้พร้อมค่ะ
แต่อันที่จริงก็มาอาบน้ำสระผมที่ห้องพักของศูนย์ฯ ก็ได้นะคะ
สถานที่สะอาด ใหม่กริ๊บ ดูดีมากที่เดียว

ถ้าเป็นเคสเด็กน้อยแบบน้องป้อน วัยเกือบ 4 ขวบ 
ทางเจ้าหน้าที่ ที่ศูนย์นิทราเวท ก็แอบกระซิบว่า 
ถ้าเป็นไปได้ ก็ไม่ต้องให้น้องนอนกลางวันมานะคะ  
พอถึงเวลาเทส น้องจได้หลับปุ๋ยเลย

น้องป้อนก็ลั้นลาาาาาา 
นึกว่าพามาเปลี่ยนที่นอน
อารมณ์ดี  ทักทายเจ้าหน้าที่ แบบสบายใจ เพราะไม่รู้ว่าจะโดนอะไรบ้าง
ซักพักพอเจ้าหน้าที่เริ่มเข้ามาติดอุปกรณ์
พอเยอะขึ้น  เยอะขึ้น  เยอขึ้น...
เริ่มไม่สนุกแล้วคับ

แต่ก็ไม่ร้องโวยวายนะคะ  แค่ดูว่าจะใจเสียเล็กๆ 
ก็ยอมนอนหลับไปทั้งน้ำตา 
กอดแม่ไป หลับไป ทั้งคืน






พอตี 5 ครึ่ง เจ้าหน้าที่ก็มาถอดอุปกรณ์
พร้อมกับย้ำว่า ศูนยฯ ปิด 7 โมงนะคับ
บ้านเราก็แพ็คของ บ๊ายบาย ศูนย์นิทราเวท

อีกประมาณ 3 สัปดาห์ ก็รอฟังผลทาง internet 
ใน website ของศูนย์ฯ ตาม User ID และ Password ที่ได้รับมา


ผลการตรวจการนอนหลับของน้องป้อนค่ะ
คุณหมอประกอบเกียรติ บอกว่า 
น้องป้อนมีภาวะหยุดหายใจขณะหลับ8 ครั้ง
ซึ่งก็ควรได้รับการผ่าตัดต่อมอะดินอยด์ ที่เป็นอุปสรรคในการหายใจของน้องป้อนค่ะ

เดือน มีนาคม 2558 น้องป้อนคงจะได้รับการผ่าตัดค่ะ







Thursday, July 10, 2014

น้องปั้นฟันหลอ...5.9ขวบ

ปลายๆ เดือนมิถุนายน 2557 น้องปั้นบ่นเหมือนมีตุ่มขึ้นที่เหงือกด้านล่าง
แอบดูก็เห็นเหมือนว่าจะมีฟันขึ้น
แต่ว่าฟันน้ำนมเก่ายังคงแข็งแรงอยู่นี่หน่า??


ฟันแท้ก็รอไม่ไหวเริ่มแซงโผล่มาซ้อนกะฟันน้ำนมที่ยังดื้อไม่ยอมโยก
หลังจากนั้นไม่กี่วัน ฟันน้ำนมก็เริ่มพ่าย
ออกอาการโยกหน้า โยกหลัง
เกือบๆ 2 สัปดาห์ทีเดียวที่น้องปั้นต้องทนเอาลิ้นดุนฟันน้ำนมทียังยึดเหงือกไว้อย่างเหนียวแน่น

ในที่สุด  เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา (09 ก.ค. 57) 
ปั้นจ๋า...ฟันน้ำนมลาก่อน
ฟันหลุดที่โรงเรียนค่ะ น้องปั้นแปลงร่างเป็น "หลอลี่" ที่แอบมีฟันแท้ซ่อนอยู่ข้างใน

แต่ก็ไม่วาย น้องปั้นยังอุตส่าห์เอาผ้าเช็ดหน้าห่อเจ้าฟันน้ำนมซี่น้อยกลับมาอวดทุดคนที่บ้านด้วย
นี่ค่ะ...หน้าตาฟันน้ำนมซี่น้อยของน้องปั้น

นี่ก็หน้าตาเด็กฟันหลออออออออออออ
หลอ  โบ๋อยู่ได้สอง สาม วัน
ฟันแท้ก็มาทวงสถานที่คืน
ส่วนน้องปั้นก็ดูแลฟันแท้อย่างดีค่ะ 
ไม่ว่าจะง่วง งัวเงีย ขนาดไหน ก็ไม่ลืมแปรงฟัน
แถมยังขอแปรงฟันหลังทานขนมด้วยค่ะ 

นี่ก็เห็นบ่นๆ ว่า มีตุ่มแข็งๆ ที่เหงือกด้านล่างอีกแล้ว...  ^ ^ 

Tuesday, May 14, 2013

พัฒนาการน้องป้อนในวัย 2 ขวบ 2 เดือน

น้องป้อนอายุ 2 ขวบ 2 เดือน ทำอะไรได้บ้าง

อ่านได้

กระโดดได้

เต้นได้




ขี่จักรยานได้

เล่นชิงช้าได้

เล่น เครื่องออกกำลังกาย sky walker ได้

รดน้ำต้นไม้ได้

Thursday, February 14, 2013

น้องป้อนได้จักรยานใหม่แล้วจ้า

วันวาเลนไทน์ ปี 2556
น้องป้อนได้ของเล่นเสริมทักษะการขี่จักรยานมาใหม่
เป็นจักรยานทรงตัว balance bike
ถึงแม้ว่า น้องป้อนขี่จักรยานที่มีล้อเสริม (supporting wheels) ได้แล้ว
แต่ปะป๊าเห็นว่า เด็กๆ ควรจะหัดทรงตัวได้ก่อน ที่จะปั่นได้
ก็เลยตัดสินใจ ลองซื้อจักรยานทรงตัวมาให้ป้อนขี่
ซึ่งป้อนก็คงจะงงงงเล็กน้อย ที่ว่าบันไดสำหรับถีบอยู่ไหน
แต่สักพัก ก็คงจะรู้วิธีที่จะใช้จักรยานทรงตัว คือต้องคอยพยุงและใช้ขาไถเอง

ได้รับของทาง EMS
เปิดกล่องดู สีเหลืองตามสั่ง
ชิ้นส่วนทั้งหมด
ปะป๊าเริ่มประกอบตามคู่มือ
เสร็จเรียบร้อย
ขอประกอบเองคร๊าบบบ


เริ่มต้นขี่จักรยานทรงตัว

คลิปภาพเคลื่อนไหว

ลองขี่จักรยานทรงตัวครั้งแรก คุณตาช่วยประคองหลัง
น้องป้อนคงสงสัยเล็กน้อยว่าทำไมบันไดจักรยานหายไปไหน
เลยยกขาทั้งสองข้างขึ้นมา เพราะเดิมที น้องป้อนขี่จักรยานที่มีล้อช่วยมาก่อน

จักรยานทรงตัว (balance bike)

เมื่องาน Baby Best Buy 2013 ตอนต้นปี ที่ผ่าน
ปะป๊าได้ไปเห็นจักรยานทรงตัว สำหรับเด็กที่ไม่มีที่ปั่นเข้า
สนใจมาก น่าจะเหมาะกับป้อน ที่กำลังชอบจักรยาน
ถึงแม้ว่า ป้อนสามารถปั่นจักรยานแบบที่มีล้อเล็กๆ ช่วยได้แล้ว
ตั้งแต่ตอน 1 ขวบ 8 เดือน แต่ปะป๊าก็ยังคิดว่า
จักรยานประเภท balance bike น่าจะเป็นอะไรที่ถูกต้องกว่า
ก็เลยหาข้อมูลเล็กน้อยจากทาง internet
ก็พบว่า คนที่คิดค้นจักรยานแบบนี้ขึ้น
ก็ได้แรงบันดาลใจที่ว่า ไม่ค่อยประทับใจกับจักรยานที่มีที่ปั่น
เพราะเค้าก็ไปเลือกซื้อจักรยานแบบธรรมดากับลูก
ลูกก็ชอบมากๆ พอเอามาปั่นที่บ้าน ลูกก็ล้ม
จากความสุข สนุกสนานของลูก เลยเปลี่ยนเป็นความทุกข์ไป
พ่อคนนี้เยคิดประดิษฐ์จักรยานต้นแบบเอง
เป็นแบบใช้ขาไถ ไม่มีบันได (padel) และไม่สูง
โดยลูกสามารถใช้เท้ายันได้ เมื่อจะล้ม
ผลปรากฎว่า ลูกชอบและสนุกกับมันมาก
ใช้เวลาทำความคุ้นเคยกันจักรยานไม่นานนัก
ก็เริ่มขี่ได้ ทรงตัวได้ และกลายเป็นของเล่นชิ้นโปรดไปในที่สุด
เมืองไทย เจ้าแรกที่เข้ามาทำตลาดได้แก่ Strider
และก็มี bikinki balance bike ราคา แค่ 2400 บาท
รูปทรงคล้าย strider มาก ราคาถูกว่า เป็นพัน



นอกจากนี้ ยังมีเจ้าน้องใหม่ นำเข้ามาจาก เมืองจีน เปิดตัวในงาน
baby best buy 2013 ตั้งชื่อว่า Smiley PreSchool Bike
ราคาขายเฉพาะในงานถูกกว่า strider ราว 20-30%
ขายในงาน 2850 บาท และให้ราคานี้หลังจบงานสักพัก
จัดส่งทาง EMS เพิ่มค่าส่งอีก 180 บาท


ใครสนใจจักรยานทรงตัวของเจ้าไหน
ก็ลองโทรไปสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
ตาม link  ที่ผมทำไว้ได้นะครับ
ขอให้ลูกๆ สนุกกันจักรยานทรงตัวนะครับ


Monday, October 8, 2012

ปั้น 4 ขวบ มัดผมเองได้แล้ว

วันที่ 8 ตุลาคม 2555  
อีก 3 วันปั้นกำลังจะอายุครบ 4 ขวบเต็ม
ปั้นมัดผมเองได้แล้วค่ะ





Thursday, October 4, 2012

ปั้น 4 ขวบ เริ่มกินยาเม็ดได้แล้ว

วันที่ 3 ตุลาคม 2555 อีก 8 วัน
ปั้นจะอายุครบ 4 ขวบเต็ม
ปั้นกินยาเม็ดได้แล้ว
เป็นยาแก้แพ้ ขนาดครึ่งเม็ด
เพราะปั้นมีอาการไอมานานหลายสัปดาห์
น่าจะเป็นอาการภูมิแพ้
คุณหมอ บอกลองกินยาเม็ดดู กินแค่ครึ่งเม็ด
ปะป๊ากับแม่นุ้ย ก็ไม่แน่ใจว่าจะกินได้หรือเปล่า
ต้องลองดู ได้ก็ได้ ไม่ได้ก็ไม่ได้
ถ้าไม่ได้จริงๆ ค่อยไปหาซื้อยาน้ำ
ที่ร้านขายยาแถวบ้าน มาให้กินอีกที
พอดีปะป๊าก็ได้ยามาเหมือนกัน
แต่ของปะป๊ากิน 1 เม็ดเต็ม
พอได้เวลา ปะป๊าก็เลยเอายามากินพร้อมปั้น
ปะป๊ากินก่อน ปั้นกินตาม
แต่กินครั้งแรก ยาเริ่มละลายติดลิ้น
กินยังไงก็ไม่ลงคอ โชคดีที่ยาตัวนี้ ไม่มีรสขม
คือมันไม่มีรสชาด จืดๆ ปั้นเลยดื่มน้ำตามหลายเที่ยว
จนในที่สุด ก็ลงคอไปได้
เด็ก 4 ขวบ กินยาเม็ดได้ ถือว่าเก่งนะนี่

Thursday, June 7, 2012

ป้อนกลัววววว

วันนี้ น้องป้อนพูดคำว่ากลัวออกมาได้ชัดเจน
มาดูกันว่าน้องป้อนกลัวอะไร


ดูคลิป ฟังเสียงให้ชัดๆ ว่ากลัวจริงไหม


Sunday, February 26, 2012

ป้อนเดินได้แล้วจ้า

มาดูน้องป้อนเดินกัน
clip นี้ ถ่ายได้ตอนคืนวันที่ 21 กุมภาพันธ์
ตรงกับวันเกิดครบ 1 ขวบปีของป้อนพอดี
ถ้าเดินเองก็จะเดินช้าหน่อย
เพราะยังทรงตัวไม่ถนัด
แต่ถ้ามีคนจูงมือ
น้องป้อนจะไม่ใช่แค่เดินธรรมดา
แต่จะวิ่งเอาเลย
ทักษะทางด้านร่างกายของป้อน
จะดีกว่าพี่ปั้นมาก
พี่ปั้นกว่าจะเดินได้ ก็ราวๆขวบครึ่ง
แต่พี่ปั้นจะมีทักษะการพูดเร็วกว่าป้อนครับ
ตอนพี่ปั้นยังไม่ครบ 1 ขวบดี
ก็พูดได้ราว 20 คำแล้ว

Wednesday, February 1, 2012

update ลิงป้อน



ตอนนี้ลิงป้อน 11 เดือนกับ 1 สัปดาห์แล้ว
*ความซนไม่สามารถบรรยายได้
*ยังพูดเป็นคำที่สื่อความหมายได้เล็กน้อย เช่น หม่ำๆ มาๆ
*หยิบจับของได้ถนัดทั้งสองมือ (จับแน่นมาก)
*ลุกและยืนทรงตัวได้เอง ช่วงสั้นๆ
*เดินรอบบ้าน โดยมีคนจูงได้ตลอดเวลา
*ทานอาหารได้เหมือนพี่ปั้นเป๊ะเลย ทานข้าวสวยได้
ทานผลไม้ไม่ต้องคายกากได้
*ชอบเลียนแบบพี่ปั้น เห็นพี่ปั้นเล่นอะไรก็จะเล่นมั่ง
*ดื่มน้ำได้ทั้งจากแก้ว และดูดหลอดโดยไม่สำลัก
*เริ่มอยากใช้ช้อนตักอาหารเอง (แต่ยังตักไม่เข้าปาก)
*เริ่มเลือกอาหารที่อยากกินได้เองด้วยการชี้นิ้วและบอกหม่ำๆ
*ชอบปีนป่าย ชอบเดินถือไม้กวาดและที่โกยผง (ไม่รู้ทำไม?)
*ชอบร้องเพลงแบบไม่มีเนื้อร้อง (ฮัมเพลงไปเรื่อย)
*เริ่มเต้นตามเพลงที่ตัวเองรู้จัก
- Incy Wincy Spider
- Wheels on the bus
- I've been working on the rail road
*เริ่มดูดนมจากขวดได้บ้าง ยังดูดนมแม่จากเต้าเป็นหลัก
*รู้จักยกขาออกจากกางเกงเอง เวลาถอดกางเกง
*ชอบเล่นของเล่นที่มีกลไก การหมุน ไขน๊อต ทำนองนี้
*อารมณ์ดี ยิ่มง่าย แต่เบี้ยวมากเวลาง่วง

อ๊ะ...นึกได้อีกจะมาเติมอีก ตอนนี้นึกไม่ออกแล้ว
ส่วนพี่ปั้นก็รักน้อง ห่วงน้องแล้วก็ช่วยดูน้องได้บ้างแล้วนะ
ป้อนขนมกับน้ำให้น้องได้แล้วด้วย :)







ปรื้นนนน ปรื้นนนนนน........!!!



Saturday, August 13, 2011

ปั้นเด็กสองภาษา

ปั้นพูดโหมดภาษาไทย (Thai mode)


ปั้นพูดโหมดภาษาอังกฤษ (English mode)

Friday, August 12, 2011

ภารกิจนมแม่ episodeIII เนื่องในวันแม่ 12 สิงหา แต่พ่อเขียน

เห็นแม่นุ้ยตั้งใจเลี้ยงลูกด้วยน้ำนมตัวเอง
ก็ต้องยกให้วันนี้ เป็นวันแม่นุ้ย
เพราะความตั้งใจที่จะเลี้ยงน้องปั้น และน้องป้อน
ด้วยน้ำนมตัวเอง ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ
เหมือนง่าย แต่ไม่ง่าย
หลายคนคิดว่า เลี้ยงลูกด้วยน้ำนมตัวเอง
ไม่เห็นจะมีอะไรยากเลย ก็แค่นมแม่
ผมว่าคุณแม่ประมาณ 99 เปอร์เซ็นต์ ตั้งใจเช่นนั้น
แต่ผลสุดท้าย ต้องปลี่ยนใจ ยอมแพ้ และล้มเลิกความตั้งใจไป
สาเหตุมาจาก ข้อจำกัดหลายๆประการ
เช่นคุณแม่ต้องทำงาน ร่างกายไม่พร้อม
หรือขาดการเตรียมตัวตั้งแต่แรก
อย่างแม่นุ้ยตั้งใจลางานตามปกติ
และลาแบบไม่รับเงินเดือนต่ออีก
เพื่องานนี้ รวมกันแล้วเกือบ 1 ปี เต็ม สำหรับลูกคนที่สอง
ส่วนคนแรกน้องปั้นลางานรวมกันประมาณ 7 เดือน
แต่ปั๊มนมและเก็บนมแช่แข็งให้น้องปั้นดื่มต่อไปอีก
จนได้อายุประมาณ 11 เดือน
การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ไม่ง่าย
เพราะต้องตื่นขึ้นมาดึกๆ เพื่อให้นมลูก
รวมทั้งให้นมตอนกลางวัน แบบตลอดทั้งวันอีกต่างหาก
เพื่อเป็นการกระตุ้นเพื่อให้มีการผลิตน้ำนมตลอดเวลา
บางครั้งก็เจอปัญหาหัวนมแตกบ้าง ลูกกัดหัวนมบ้าง
น้ำนมพุ่งแรง จนลูกดื่มไม่ทัน สบัดหน้าหนีบ้าง
แต่ก็ยังพยายามและตั้งใจเลี้ยงลูกด้วยน้ำนมตัวเองต่อไป
ในปัจจุบัน โฆษณานมสำหรับเด็กมีมากและมักจะสื่อออกมาว่า
เมื่อดื่มมากๆแล้วจะทำให้ลูกฉลาด
โดยมักใช้แม่ที่เป้นดารามาเป็นพรีเซ็นเตอร์กัน
คนดูไม่รู้ ก็เลยหลงเชื่อตามนั้นไป
แต่ความเป็นจริงเด็กที่กินนมผงมากเกินไป
จะทำให้ระดับไอคิวน้อยกว่าเด็กที่ดื่มนมแม่ 2-11 จุด
ป่วยบ่อย เนื่องจากไม่ได้รับภูมิคุ้มกันที่มีมากในนมแม่
นอกจากนี้ผู้ผลิตนมยังหากลยุทธใหม่ๆ
เช่นการแจกนมตัวอย่างในโรงพยาบาล
ในชุมชนเทศบาล หรือผ่าน อสม. เป็นต้น
แม่ในชนบทส่วนใหญ่มีโอกาสเลี้ยงลูกด้วยนมแม่
แต่กลับคิดว่านมผงมีประโยชน์มากกว่า
เลยให้ลูกกินนมผงดีกว่า
นอกจากนี้บริษัทนมผงยังใช้กลยุทธเข้าไปในโรงงาน
ในลักษณะให้ความรู้เรื่องนมแม่
ว่าดีที่สุด มีสารอาหารที่มีประโยชน์นานาชนิด
ชื่อนั้นชื่อนี้ ซึ่งในนมผงก็มีเช่นกัน
และสุดท้ายก็แจกชุดของขวัญ
ที่เป็นกระเป๋าและมีนมผงให้ไปทดลองดื่มกันอีก
ปัจจุบันมูลค่าตลาดนมมีรายได้ปีละ 1 หมื่นล้านบาท
เด็กเกิดใหม่ปีละประมาณ 8 แสนคน
แต่มีเพียง 5 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ที่ดื่มนมแม่ 6 เดือนขึ้นไป
วันนี้เลยต้องยกให้ แม่นุ้ย 1 วัน
ข้อมูลบางส่วน ได้มาจากบทความ "หมายเหตุประชาชน"
ใน นสพ.เดลินิวส์ ฉบับวันพฤหัสบดีที่ 21 กรกฎาคม 2554 หน้า 8 ครับ


Saturday, July 9, 2011

ปั้นออกเสียง phonics

พอดีปั้นกำลังกินขนมปังที่เป็นรูปตัวอักษรอังกฤษ
ปะป๊าก็เลยลองหยิบให้ปั้นออกเสียง ก่อนจะให้กิน
เหมือนกำลังฝึกแมวน้ำเลย
โดยปกติถ้ามีการถ่ายรูป ปั้นจะไม่ค่อยยอมทำ
ลองดูกันนะ

Wednesday, June 1, 2011

PAN's speaking dictionary



ดิกชั่นนารีออกเสียงได้ของปั้น ยี่ห้อ Franklin เครื่องนี้
รุ่น KID-1240 ฝากลุงจุมภฏ หิ้วมาจากอเมริกา
ตอนลุงไปเยี่ยมญาติช่วงเดือนเมษายน
ส่วนของปะป๊าก็มีอีกเครื่อง เป็นรุ่นที่แปลศัพท์
แบบปกติ คือยาวๆ เป็นของ Franklin เหมือนกัน รุ่น LM-6000b
แต่ของปั้น จะแปลแบบง่ายๆ สำหรับเด็กโดยเฉพาะ

เช่น Family ของปั้นแปลว่า
1. parents and their children
2. all your relatives
3. a related group [noun]
แต่ของปะป๊า แปลว่า
1. a group of persons of common ancestry
2. a group of individuals living under one roof and under one head : HOUSEHOLD
3. a group of things having common characteristics
4. a social group composed of parents and their children
ประมาณนี้

จากการทดลองใช้งาน และให้ปั้นใช้
ต้องยอมรับว่าเหมาะสมสำหรับเด็กเล็กมาก
คือ ใช้ได้จนระดับประถมต้นเลย
แต่สำหรับปั้นยังอ่านอักษรไม่ได้
เมื่อไรปั้นอยากฟังการออกเสียงภาษาอังกฤษ
เขาก็จะบอก I want to hear.
ปะป๊าก็จะไปหยิบเครื่องมาให้เขาเปิด
และปะป๊าจะชี้ไปที่ตัวอักษรทีละตัว
แล้วปั้นจะกดตามทุกตัว
เสร็จแล้วปั้นก็จะกดปุ่ม speak ให้เครื่องออกเสียงให้ฟัง
ตามด้วย Enter แล้ว speak อีกครั้ง
พอเสร็จปั้นก็จะกดปุ่ม on/off ทุกที