Search NuiPik Blog ลองใส่คำดูสิค่ะ

Friday, August 12, 2011

ภารกิจนมแม่ episodeIII เนื่องในวันแม่ 12 สิงหา แต่พ่อเขียน

เห็นแม่นุ้ยตั้งใจเลี้ยงลูกด้วยน้ำนมตัวเอง
ก็ต้องยกให้วันนี้ เป็นวันแม่นุ้ย
เพราะความตั้งใจที่จะเลี้ยงน้องปั้น และน้องป้อน
ด้วยน้ำนมตัวเอง ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ
เหมือนง่าย แต่ไม่ง่าย
หลายคนคิดว่า เลี้ยงลูกด้วยน้ำนมตัวเอง
ไม่เห็นจะมีอะไรยากเลย ก็แค่นมแม่
ผมว่าคุณแม่ประมาณ 99 เปอร์เซ็นต์ ตั้งใจเช่นนั้น
แต่ผลสุดท้าย ต้องปลี่ยนใจ ยอมแพ้ และล้มเลิกความตั้งใจไป
สาเหตุมาจาก ข้อจำกัดหลายๆประการ
เช่นคุณแม่ต้องทำงาน ร่างกายไม่พร้อม
หรือขาดการเตรียมตัวตั้งแต่แรก
อย่างแม่นุ้ยตั้งใจลางานตามปกติ
และลาแบบไม่รับเงินเดือนต่ออีก
เพื่องานนี้ รวมกันแล้วเกือบ 1 ปี เต็ม สำหรับลูกคนที่สอง
ส่วนคนแรกน้องปั้นลางานรวมกันประมาณ 7 เดือน
แต่ปั๊มนมและเก็บนมแช่แข็งให้น้องปั้นดื่มต่อไปอีก
จนได้อายุประมาณ 11 เดือน
การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ไม่ง่าย
เพราะต้องตื่นขึ้นมาดึกๆ เพื่อให้นมลูก
รวมทั้งให้นมตอนกลางวัน แบบตลอดทั้งวันอีกต่างหาก
เพื่อเป็นการกระตุ้นเพื่อให้มีการผลิตน้ำนมตลอดเวลา
บางครั้งก็เจอปัญหาหัวนมแตกบ้าง ลูกกัดหัวนมบ้าง
น้ำนมพุ่งแรง จนลูกดื่มไม่ทัน สบัดหน้าหนีบ้าง
แต่ก็ยังพยายามและตั้งใจเลี้ยงลูกด้วยน้ำนมตัวเองต่อไป
ในปัจจุบัน โฆษณานมสำหรับเด็กมีมากและมักจะสื่อออกมาว่า
เมื่อดื่มมากๆแล้วจะทำให้ลูกฉลาด
โดยมักใช้แม่ที่เป้นดารามาเป็นพรีเซ็นเตอร์กัน
คนดูไม่รู้ ก็เลยหลงเชื่อตามนั้นไป
แต่ความเป็นจริงเด็กที่กินนมผงมากเกินไป
จะทำให้ระดับไอคิวน้อยกว่าเด็กที่ดื่มนมแม่ 2-11 จุด
ป่วยบ่อย เนื่องจากไม่ได้รับภูมิคุ้มกันที่มีมากในนมแม่
นอกจากนี้ผู้ผลิตนมยังหากลยุทธใหม่ๆ
เช่นการแจกนมตัวอย่างในโรงพยาบาล
ในชุมชนเทศบาล หรือผ่าน อสม. เป็นต้น
แม่ในชนบทส่วนใหญ่มีโอกาสเลี้ยงลูกด้วยนมแม่
แต่กลับคิดว่านมผงมีประโยชน์มากกว่า
เลยให้ลูกกินนมผงดีกว่า
นอกจากนี้บริษัทนมผงยังใช้กลยุทธเข้าไปในโรงงาน
ในลักษณะให้ความรู้เรื่องนมแม่
ว่าดีที่สุด มีสารอาหารที่มีประโยชน์นานาชนิด
ชื่อนั้นชื่อนี้ ซึ่งในนมผงก็มีเช่นกัน
และสุดท้ายก็แจกชุดของขวัญ
ที่เป็นกระเป๋าและมีนมผงให้ไปทดลองดื่มกันอีก
ปัจจุบันมูลค่าตลาดนมมีรายได้ปีละ 1 หมื่นล้านบาท
เด็กเกิดใหม่ปีละประมาณ 8 แสนคน
แต่มีเพียง 5 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ที่ดื่มนมแม่ 6 เดือนขึ้นไป
วันนี้เลยต้องยกให้ แม่นุ้ย 1 วัน
ข้อมูลบางส่วน ได้มาจากบทความ "หมายเหตุประชาชน"
ใน นสพ.เดลินิวส์ ฉบับวันพฤหัสบดีที่ 21 กรกฎาคม 2554 หน้า 8 ครับ


No comments:

Post a Comment